Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the acf domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/tpnthaic/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121

Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the wp-migrate-db domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /home/tpnthaic/public_html/wp-includes/functions.php on line 6121
ENERGY NETWORK - TPN
ENERGY NETWORK

ENERGY NETWORK

02 February 2019 | 04:38am

Media Content

เส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 (ONE BELT ONE ROAD PROJECT: OBOR)

เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักของประเทศจีน ผลักดันการเชื่อมโยงและการพัฒนาเส้นการค้าในภูมิภาคเพื่อการเชื่อมต่อระหว่างประเทศจีนและประเทศต่างๆ กว่า 60 ประเทศทั่วโลกที่อยู่บนเส้นทางระหว่างจีนกับยุโรป เป็นการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม พลังงาน การค้า และการสื่อสาร รวมทั้งด้านอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย  2 ส่วนที่สำคัญคือ

  1. วงแหวนเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมทางบก (SILK Road Economic Belt:SREB)
  2. เส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road:MSR)

ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจเชื่อมระหว่างจีน ผ่านทางเอเชียกลาง รัสเซีย และยุโรป  รวมถึงการเชื่อมโยงจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ SREB จะมุ่งเน้นการสร้างสะพานข้ามพื้นดินแห่งใหม่ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ ระเบียงเศรษฐกิจ จีน-คาบสมุทรอินโดจีน (China-Indochina Peninsula Economic Corridor : CICPEC)

โดยมีเครือข่ายรถไฟหลัก 3 เส้นทาง เริ่มต้นจากคุนหมิง และจาก 2 ใน 3 เส้นทางจะสิ้นสุดในกรุงเทพฯ และอีกเส้นทางหนึ่งผ่านกรุงเทพฯและไปสิ้นสุดเส้นทางในประเทศสิงคโปร์ ประกอบด้วย

  1. เส้นทางรถไฟสายตะวันออก: เริ่มจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีนผ่านทางเวียดนาม และกัมพูชา เพื่อเชื่อมต่อกับระบบรถไฟจากชายแดนไทยสู่กรุงเทพฯ โดยเส้นทางรถไฟทั้งหมดในประเทศจีนและส่วนใหญ่ของเวียดนามเสร็จสมบูรณ์แล้ว ยังคงขาดเส้นทางจากนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
  2. เส้นทางรถไฟสายตะวันตก: เริ่มจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีนผ่านทางพม่าไปยังกรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการทำให้เสร็จสมบูรณ์เนื่องจากยังคงขาดเส้นทางในส่วนของประเทศพม่า
  3. เส้นทางรถไฟสายกลาง: เริ่มต้นจากคุนหมิง ประเทศจีนผ่านลาว ไทย มาเลเซียและสิงคโปร์ การสร้างทางรถไฟภายในประเทศจีนยังคงอยู่ในระหว่างการก่อสร้างเกินกว่าครึ่ง รวมถึงเมืองบ่อเต็นไปยังเวียงจันทน์ ประเทศลาว มีกำหนดการแล้วเสร็จในปี 2563 หากโครงการฯดังกล่าวแล้วเสร็จจะกลายมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพทางการค้าในภูมิภาคกับจีนตอนใต้ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำมันจากโรงกลั่นของไทยอีกด้วย

เส้นทางรถไฟสายแพนเอเชียและ ท่อขนส่งน้ำมัน TPN

เส้นทางรถไฟสายแพนเอเชียเป็นจุดเชื่อมโยงเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านกิจกรรมทางการค้าในอินโดจีนกับทางตอนใต้ของจีน นอกจากการขนส่งผลิตภัณฑ์น้ำมันแล้วยังช่วยการจัดหาผลิตภัณฑ์น้ำมัน จากโรงกลั่นของไทยไปยังจีนตอนใต้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเรือบรรทุกน้ำมันที่ส่งออกมาจากโรงกลั่นของไทยต้องใช้ระยะเดินทางกว่า 1,000 กิโลเมตรจากท่าเรือบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก เพื่อข้ามพรมแดน 2 ครั้ง

เครือข่ายทางรถไฟที่เชื่อมโยงทางตอนใต้ของจีนผ่านประเทศลาว ไทย และมาเลเซีย นั้นสามารถสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับ TPN ในอนาคตอันใกล้นี้ และเครือข่ายรถไฟมีกำหนดการจะเสร็จสิ้นจากตอนใต้ของจีนถึงเวียงจันทน์ในปี 2564 ซึ่งจะครอบคลุมถึงพื้นที่ ที่สามารถเข้าถึงระบบการขนส่งทางท่อของ TPN

ความต้องการใช้น้ำมันของจีนตอนใต้และลาวตอนบน

TPN ได้วางแผนที่จะศึกษาการจัดตั้งคลังน้ำมันเวียงจันทน์ (VIENTIEN OIL TERMINAL) ที่ท่านาแล้ง เวียงจันทน์ ปัจจุบันท่านาแล้งเป็นศูนย์กลางการนำเข้าสินค้าต่างๆ ที่สำคัญจากประเทศไทยของลาว และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์คลังเก็บสินค้าที่สำคัญในอนาคต ซึ่งเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าระหว่างจีนตอนใต้กับไทย ผ่านประเทศลาว

ผลิตภัณฑ์น้ำมันจากคลังขอนแก่นของ TPN สามารถส่งไปยังคลังน้ำมันเวียงจันทน์ โดยในระยะแรกสามารถส่งได้หลากหลายช่องทาง เช่น ถนนโดยรถบรรทุก ทางรถไฟ และขนส่งน้ำมันทางท่อจากคลังขอนแก่น ไปยังคลังน้ำมันเวียงจันทน์ในอนาคต คลังน้ำมันเวียงจันทน์สามารถติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการรับ-ส่งน้ำมันทางรถไฟ เพื่อขนส่งทางรถไฟไปยังจีนตอนใต้ภายในระยะเวลาเพียง 1 วัน

ปัจจุบันจีนตอนใต้นำเข้าน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมันของไทย ปริมาณ 200 – 300 ล้านลิตรต่อปี ภายใต้การขนส่งทางรถบรรทุก อย่างไรก็ตามในอนาคตระบบการขนส่งน้ำมันจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นผ่านเครือข่ายการขนส่งน้ำมันทางท่อของ TPN ซึ่งจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายรถไฟ One belt one road project (OBOR) ที่ท่านาแล้ง ส่งผลให้ต้นทุนระบบการขนส่งลดลงและสามารถเข้าถึงประเทศจีนชั้นในได้ และปริมาณการใช้น้ำมันอาจเพิ่มขึ้นถึง 500-600 ล้านลิตรต่อปี

Media Content
Media Content

Notice: ob_end_flush(): failed to send buffer of zlib output compression (0) in /home/tpnthaic/public_html/wp-includes/functions.php on line 5471